ลักษณะภูมิอากาศของจังหวัดอุบลราชธานี
จัดอยู่ภายใน เขตภูมิอากาศแบบทุ่งหญ้าเมืองร้อน หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เขตภูมิอากาศแบบสวันนา ซึ่งเป็นลักษณะอากาศที่มีฤดูแล้งสลับฤดูฝนอย่างเด่นชัดจากสถิติภูมิอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาในคาบ 30 ปี (พ.ศ. 2514-2543) ของจังหวัดอุบลราชธานี พบว่า
ปริมาณฝนรวมเฉลี่ยทั้งปี วัดได้ 1,581.4 มิลลิเมตร
ความชื้นสัมพัทธ์สูงที่สุดเฉลี่ย วัดได้ 94 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกันยายน ความชื้นสัมพัทธ์ต่ำที่สุดเฉลี่ย วัดได้ 40 เปอร์เซ็นต์
ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยรวมแล้วจังหวัดอุบลราชธานีมีความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยทั้งปี 73
เปอร์เซ็นต์
ลักษณะอากาศเช่นนี้เกิดขึ้นเนื่องจากจังหวัดอุบลราชธานีตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุม
2 ชนิด คือ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ
จึงสามารถแบ่งฤดูกาลออกได้เป็น 3 ฤดู คือ
![]() |
| แก่งสะพือ ในช่วงฤดูฝน |
ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม
ซึ่งได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลอันดามันและอ่าวไทยเข้ามาปกคลุม
และมีอิทธิพลของ ร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุม
พาดผ่าน
ทำให้เริ่มมีฝนตกชุกตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไปจนถึงกลางเดือนมิถุนายน
หลังจากนั้นไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคมฝนจะลดน้อยลงมากบางวันอาจไม่มีฝนตกเลย
เรียกระยะนี้ว่า ระยะฝนทิ้งช่วง เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุมได้เคลื่อนตัวขึ้นไปพาดผ่านตอนบนของประเทศลาว
เวียดนาม และประเทศจีนตอนใต้
สำหรับในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนฝนจะกลับมาตกชุกอีกครั้งหนึ่ง
เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุมได้เคลื่อนตัวลงมาพาดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
ในฤดูนี้มักมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวจากทะเลจีนใต้เข้ามามีอิทธิพลต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เฉลี่ยปีละ 1-3 ลูก
จากสถิติภูมิอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาในคาบ 30 ปี (พ.ศ. 2514-2543)
ของจังหวัดอุบลราชธานี พบว่า ฝนตกชุกมากที่สุดคือเดือนสิงหาคม
วัดปริมาณฝนรวมเฉลี่ยได้ 308.3 มิลลิเมตร
รองลงมาคือเดือนกันยายน วัดปริมาณฝนรวมเฉลี่ยได้ 289.7 มิลลิเมตร
ปริมาณฝนรวมเฉลี่ยทั้งปี วัดได้ 1,581.4 มิลลิเมตร

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น